รมว.ศธ.ตรวจเยี่ยมสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ย้ำแนวทางการทำงาน ปฏิบัติหน้าที่แบบน้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมที่จะเรียนรู้พัฒนาตนเองตลอดเวลา

29 มกราคม 2567 / พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมและมอบแนวทางการทำงานตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข“ ให้กับผู้บริหารสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) โดยนายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัด ศธ., นายวรัท พฤกษาทวีกุล รักษาราชการแทนรองปลัด ศธ., ผู้ตรวจราชการ ศธ., ผู้บริหารส่วนกลาง พร้อมด้วยศึกษาธิการภาค และศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

รับชมภาพเพิ่มเติม Facebook ศธ.360 องศา

รมว.ศธ. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ได้ดำรงตำแหน่ง ขอขอบคุณและชื่นชม สป.ศธ. ที่ได้ดำเนินงานร่วมกันและปฏิบัติงานตามนโยบายได้เป็นอย่างดี ทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สามารถทำงานได้สอดประสานซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะในเรื่องของโครงสร้างระดับจังหวัด โดยสำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.) และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานในระดับพื้นที่ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจภูธรจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษา ตลอดจนองค์กรภาคเอกชน ศธจ.จึงปรียบเสมือน สป.จังหวัด เป็นเจ้าภาพหลักในการทำงานของจังหวัด เพื่อส่งต่อข้อมูลมายัง สป.ศธ. และรายงาน รมว.ศธ. ทราบ

สำหรับแนวทางการทำงานตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ขอให้บุคลากรทุกหน่วยงานทำงานในมิติที่สอดประสานกัน นำรูปแบบบูรณาการการทำงานร่วมกัน และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส มีความรับผิดชอบ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อสานต่อความร่วมมือที่เข้มแข็ง เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พร้อมทบทวนภารกิจงานต่าง ๆ ตามความจำเป็นและความเหมาะสม เพื่อช่วยลดภาระงานของบุคลากร ขอให้มีความพร้อมในการเรียนรู้ตลอดเวลา เปรียบเสมือนน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมเติมเต็มความรู้ในการพัฒนาตนเองเข้าไปอยู่เสมอ

หมั่นเรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีการสร้างทักษะ (Reskill) การพัฒนาทักษะ (Upskill) เพื่อยกระดับทักษะที่มี ให้ดีกว่าเดิม รวมถึงการพัฒนาทักษะด้านภาษา ทักษะด้านเทคโนโลยี ตลอดจนพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การพัฒนาในการปฏิบัติงาน และการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ถือเป็นการเรียนรู้จากอดีตเพื่อนำมาพัฒนาปัจจุบันและอนาคต ที่สำคัญต้องปฏิบัติงานด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว ประโยชน์ ประหยัด นึกถึงประโยชน์ขององค์กร ประโยชน์ของส่วนรวม ประโยชน์ของ ศธ. มาก่อนประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก

ในส่วนการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้ตรวจราชการ และผู้ตรวจราชการ ได้มอบหมายให้ขับเคลื่อนและกำกับดูแลการทำงานของ ศธภ. และให้ ศธจ. ร่วมปฏิบัติงานและสนับสนุนการทำงานร่วมกัน เพราะงานในส่วนของภูมิภาคเป็นอีกภารกิจหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนนโยบายของ ศธ. เป็นกลไกในการบริหารงานเชิงพื้นที่ไม่เคยมีมาก่อน

นอกจากนี้ ในเรื่องของการนำระบบ Smart Office หรือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดขั้นตอนในการดำเนินงานและประหยัดงบประมาณ ลดการใช้กระดาษโดยใช้ไฟล์เอกสาร ถือเป็นการลดขยะและช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฝากให้ ศธภ./ศธจ. ดำเนินการจัดทำ e-Book ของหน่วยงาน เพื่อนำเสนอนโยบายการปฏิบัติงาน ประชาสัมพันธ์ภารกิจ หรือกิจกรรมต่าง ๆ โดยนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ และให้มีการอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อมีข้อมูลสนับสนุนการปฏิบัติงานได้อย่างเป็นปัจจุบัน

ด้านการจัดงานหรือกิจกรรมของ ศธ. ทั้งงานในส่วนกลางและภูมิภาค ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม ต้องมีแผนในการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นอย่างรัดกุม และอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยให้ ศธจ. เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ในการดูแลความปลอดภัยให้กับครู บุคลากร และนักเรียนทุกคน

ฝากพวกเราทำงานให้มีความสุข ไม่ว่าจะทำงานตรงจุดใด ขอให้มองให้เป็นสิ่งที่ดี รู้หน้าที่ รู้หน่วยงาน พยายามสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น จะช่วยทำให้การทำงานจากเรื่องยากเป็นเรื่องง่าย ให้มีความพร้อมในการเรียนรู้ตลอดเวลา เปรียบเสมือนน้ำครึ่งแก้ว ที่พร้อมเติมเต็มความรู้ ในการพัฒนาตนเองเข้าไปอยู่เสมอ เรียนรู้เทคโนโลยีสมัยใหม่ Reskill / Upskill เพื่อยกระดับทักษะที่มี ให้ดีกว่าเดิม

“ในฐานะที่ได้รับหน้าที่สำคัญในการพัฒนาด้านการศึกษาของประเทศ มีความยินดีและมีความสุขในการทำงาน พร้อมที่จะทำงานภายใต้ความท้าทายต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง ในส่วนมิติของการสร้างความร่วมมือร่วมใจในการทำงาน ขอให้บุคลากรทุกคน หน่วยงานทุกหน่วยงานร่วมมือร่วมใจในการปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กรเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล นำรูปแบบการทำงานแบบบูรณาการและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส มีความรับผิดชอบ มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อสานต่อความร่วมมือที่เข้มแข็ง และสร้างคุณภาพการศึกษาของประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ฝากให้ผู้บริหารและบุคลากรทุกระดับ ทำแบบสอบถาม และนำข้อแนะนำกลับมาให้ตนพิจารณา เพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยไปด้วยกัน” รมว.ศธ.กล่าว

ภายหลังประชุมมอบแนวทางการทำงานตามนโยบาย รมว.ศธ. พร้อมด้วยนายนพ ชีวานันท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ตรวจเยี่ยมหน่วยงานในสังกัด สป.ศธ. เช่น กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักตรวจราชการและติดตามประเมินผล สำนักนิติการ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มตรวจสอบภายใน และห้องสมุดและศูนย์เอกสารนานาชาติ

นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สป.ศธ.ได้ติดตามการดำเนินงานตามข้อสั่งการของ รมว.ศธ. ที่ได้มอบหมายให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด ในการดูแลความปลอดภัยให้กับครูและนักเรียน พร้อมทั้งดำเนินการจัดทำแผนป้องกันก่อนเกิดเหตุ และบูรณาการการทำงานและประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการร่วมกันสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา และนำระบบ“ตู้แดง” มาใช้ในการป้องกันเหตุ ให้ตำรวจและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) มาร่วมดูแลความปลอดภัยในสถานศึกษาภาพรวม ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 22 – 23 มกราคม 2567 ณ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (จังหวัดระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง และสตูล)

อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว
สมประสงค์ ชาหารเวียง / วีดิทัศน์
ศุภณัฐ วัฒนมงคลลาภ, ณัฐพล สุกไทย / ภาพ
บัลลังก์ โรหิตเสถียร / บรรณาธิการข่าว และอินโฟกราฟิก