12 มกราคม 2567 – พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย พลเอก อภิชาติ อุ่นอ่อน ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายการดำเนินงานให้กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศึกษา (สอศ.) พร้อมมอบนโยบายการทำงาน “เรียนดี มีความสุข” แนวทางการทำงาน “ถูกต้อง รวดเร็ว ประโยชน์ ประหยัด” และเดินสำรวจบรรยากาศในสถานที่ทำงาน และให้กำลังใจข้าราชการและเจ้าหน้าที่ โดยมี นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการ กอศ. เรืออากาศโท สมพร ปานดำ นายวิทวัต ปัญจมะวัต นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการ กอศ. นายสง่า แต่เชื้อสาย ผู้ช่วยเลขาธิการ กอศ. ผู้อำนวยการสำนัก ข้าราชการและบุคลากร ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม 5 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รมว.ศธ.กล่าวว่า นโยบาย “เรียนดี มีความสุข” เป็นสิ่งสำคัญที่จะยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา จึงอยากเน้นย้ำในด้านการเรียนระบบทวิภาคี พัฒนาหลักสูตร EV ของอาชีวะให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานโลก ใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ สื่อการเรียนการสอนที่หลากหลายและทันสมัย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะได้เท่าทันเทคโนโลยีในปัจจุบัน การเรียนรู้ในการใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัย หรือนวัตกรรมใหม่ในสถานประกอบการที่มีความพร้อม ทันสมัย ลงมือปฏิบัติได้จริงเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเราในฐานะหน่วยงานราชการเวลาขอจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์เครื่องมือต้องใช้เวลา บางทีกว่าจะได้มาต้องใช้เวลาอาจมีความล้าสมัยไปแล้ว จึงต้องพึ่งพากับสถานประกอบการเพื่อเอื้อเฟื้อกันในเรื่องนี้ ทั้งนี้ สอศ. ถือเป็นเป็นแรงสำคัญในการสร้างงานทั้งในและนอกประเทศสิ่งที่คาดหวังคือ การขับเคลื่อนวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี เพื่อยกระดับมาตรฐานชีวิตเกษตรกรไทย สามารถพัฒนา และนำมาประยุกต์ใช้ในวงการเกษตรของไทยให้ดีขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกได้ รวมถึงเรื่องการบริหารจัดการระบบฐานข้อมูลการรับบริจาค และอยากให้สถาบันอาชีวะทุกภาคส่วนสำรวจข้อมูลอุปกรณ์การเรียน การสอน หลักสูตร วิธีการสอน ให้ครอบคลุมทันสมัยตอบโจทย์โลกยุคใหม่ได้ เพื่อเป็นการลดภาระครู และยังเป็นการต่อยอดสร้างคุณภาพในสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สำหรับหลักคิดในการดำเนินงาน ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบให้แก่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีดังนี้ ถูกต้อง : ตามหลักการจัดการเรียนการสอน รวดเร็ว : ทันต่อเหตุการณ์ คิดเร็ว ทำเร็ว ประโยชน์ : เป็นต่อประเทศชาติ องค์กร และตนเอง ประหยัด : คุ้มค่าอย่างยั่งยืน และแนวทางการทำงาน “ทำดี ทำได้ ทำทันที” พบพร ผดุงพล / ข่าว สมประสงค์ ชาหารเวียง / ภาพ
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
8 มกราคม 2567 / พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชื่นชมนักศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่คว้ารางวัลจาก การแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งจากหิมะระดับนานาชาติ ครั้งที่ 16 (16th International Collegiate Snow Sculpture Contest, 2024) ในระหว่างวันที่ 4 – 7 มกราคม 2567 ณ เมือง Harbin สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งนำชื่อเสียงและความภาคภูมิใจมาสู่กระทรวงศึกษาธิการและประเทศไทย รมว.ศธ.เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ โดย สอศ. ได้ส่งทีมนักศึกษาเข้าร่วม “การแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งจากหิมะนานาชาติ” ณ เมือง Harbin สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยในปี 2553 ถึงปี 2566 ทีมนักศึกษาจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้รับรางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 เหรียญทอง มาโดยตลอด แต่ด้วยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้การแข่งขันฯ ตั้งแต่ปี 2564 – 2566 Harbin Engineering University (HEU) ปรับเปลี่ยนรูปแบบในการแข่งขันในรูปแบบออนไลน์ โดยการส่งคลิปวิดีโอ การปั้นโมเดล และภาพสเก็ตแทน สำหรับในปี 2567 สถานการณ์ฯ เริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้จัดส่งทีมนักศึกษาอาชีวศึกษา จำนวน 3 ทีม ประกอบไปด้วย วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี วิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา เข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งจากหิมะระดับนานาชาติ โดย Harbin Engineering University (HEU) และ China-Harbin International Ice and Snow Festival สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมสนับสนุนและเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ซึ่งมีตัวแทนจาก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ อิตาลี ออสเตรเลีย และไทย รวมทั้งหมด 58 ทีม เข้าร่วม ผลปรากฏว่า ทีมนักศึกษาสาขาวิจิตรศิลป์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา ชนะเลิศอันดับ 1 เหรียญทอง จากผลงาน “ตุ๊ก ๆ ออนทัวร์” โดยนำรถตุ๊ก ๆ มาเป็นสื่อตัวกลางในการพาตัวละครต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีในประเทศไทย เพื่อให้ชาวโลกได้เห็นศิลปะไทยในรูปแบบร่วมสมัย ส่วนทีมนักศึกษา สาขาวิจิตรศิลป์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุราษฎร์ธานี ได้รับรางวัลที่ 3 ร่วมกัน จากผลงาน “มนุษย์ กับ ธรรมชาติ” ภายใต้แนวคิด ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมนุษย์ และผลงาน “โลกแห่งสันติภาพ World of peace” ภายใต้แนวคิด เพื่อให้ทุกคนบนโลก ตระหนักถึงความสำคัญ และงดใช้ความรุนแรง ร่วมมือร่วมใจในการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น โดยทั้ง 3 ทีมได้รับโล่รางวัลพร้อมประกาศนียบัตรสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ “ในนามของกระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องขอชื่นชมนักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขันฯ ที่มุ่งมั่นตั้งใจ อดทน เสียสละฝึกซ้อมเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันในระดับนานาชาติ จนสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศได้ ซึ่งรัฐบาลและ ศธ. มีความมุ่งมั่นในการสร้างและพัฒนาศักยภาพผู้เรียนในทุกระดับ การแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงศักยภาพของนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษา ให้ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เห็นถึงความสามารถ ทั้งยังเป็นการนำความรู้และทักษะวิชาชีพมาฝึกประสบการณ์จริงผ่านการแข่งขัน เพื่อที่จะได้นำไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงในอนาคต โดยจะเชิญทั้งคณะเข้าพบเพื่อขอบคุณและชมเชยอย่างเป็นทางการต่อไป”รมว.ศธ. กล่าว ทั้งนี้ นักศึกษาผู้เข้าร่วมการแข่งขันฯ และคณะครู รวม 17 คน จะกลับสู่ประเทศไทยด้วยสายการบิน China Airlines เที่ยวบิน CA979 ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 9 ม.ค. 67 เวลาประมาณ 00.10 น. โดย รมว.ศธ. ได้มอบหมายให้นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการ กอศ. เป็นหัวหน้าคณะเดินทางเพื่อดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกในครั้งนี้ ประชาสัมพันธ์ สอศ. / ข้อมูล อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สป.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดกิจกรรมอาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน( Fix it Center) เทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้บริการตรวจสภาพรถยนต์และรถจักรยานยนต์ก่อนการเดินทางฟรี จำนวน 101 ศูนย์บริการทั่วประเทศ โดยมีพลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานปล่อยขบวนคาราวานอาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน ณ บริเวณสนามหญ้า หน้าอาคารราชวัลลภกระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางจราจรอันนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตตามนโยบายรัฐบาลกระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ระดมนักเรียนนักศึกษาอาชีวะจิตอาสา และครูอาจารย์ สาขาวิชาช่างยนต์ และสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง จากสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ จัดศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วย ช่วยประชาชน Fix it Center ครอบคลุม 77 จังหวัด จำนวน 101 ศูนย์บริการ ตามเส้นทางถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2566 – 2 มกราคม 2567 ระหว่างเวลา 06.00 – 18.00 น. โดยจุดสังเกต คือ เต็นท์สีม่วง ซึ่งจะมีป้ายบอกทางเป็นระยะก่อนถึงศูนย์บริการ ซึ่งภายในศูนย์จะให้บริการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ฟรีก่อนเดินทาง ประมาณ 20 รายการ ได้แก่ ตรวจระบบเบรก สภาพยาง อุปกรณ์ปัดน้ำฝน ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง ท่อยาง หม้อน้ำและรอยรั่ว การทำงานของไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณต่าง ๆ รวมทั้งบริการเครื่องดื่ม ผ้าเย็น ที่นั่งพักผ่อน และแนะนำข้อมูลเส้นทางแก่ประชาชนผู้เดินทาง เพื่อสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนแก่ประชาชนที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 โดยได้รับการสนับสนุนน้ำมันเครื่อง วัสดุอุปกรณ์ การจัดฝึกอบรมนักเรียน นักศึกษา จากภาคีเครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ,บริษัท ซูซูกิ โมโตเซลส์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวต่อไปอีกว่า กิจกรรมในครั้งนี้ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาเรื่องยานพาหนะในการเดินทาง โดยสามารถค้นหาข้อมูลและจุดบริการจากแอปพลิเคชันอาชีวะอาสา และที่พิเศษไปกว่านั้น สอศ.ยังได้จัดให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบางศูนย์บริการกว่า 50 ศูนย์ในทั้งหมด 101ศูนย์บริการ โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.02-281-5555 กด 0 การดำเนินกิจกรรมดังกล่าว ถือได้ว่าสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนชาวไทยในโอกาสเทศกาลปีใหม่นี้เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างยิ่ง รวมทั้งเป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างสถานศึกษากับภาครัฐและภาคเอกชน สร้างให้เด็กนักเรียนอาชีวศึกษามีจิตอาสา บริการสังคม ทำงานเป็นทีม และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมกับได้ฝึกงานจากประสบการณ์จริง เช็คจุดบริการออนไลน์ได้ที่ http://vecrsa.vec.go.th/
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ดังนี้ ๑. นายอรรถพล สังขวาสีพ้นจากตำแหน่ง ปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาการศึกษาสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ๒. นายสุเทพ แก่งสันเทียะพ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงสำนักงานปลัดกระทรวง ๓. ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดาพ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และแต่งตั้งให้ดำรงดำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๔. นายยศพล เวณุโกเศศพ้นจากตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มาhttps://ratchakitcha.soc.go.th/documents/11756.pdf