ศธ. นำเด็กและเยาวชนดีเด่น-นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ 1,220 คน เข้าทำเนียบฯ พบนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2567

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  นำทัพเด็กและเยาวชนดีเด่น  พร้อมด้วยเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ จำนวน 1,220 คน เข้าเยี่ยมคารวะ และรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี พร้อมรับโล่รางวัลจากรัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567

10 มกราคม 2567 – พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย ผู้บริหาร บุคลากร คณะกรรมการดำเนินงาน นำเด็กและเยาวชนดีเด่น และที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ รวม 1,220 คน เข้าคารวะและรับโอวาทจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมรับโล่รางวัลจาก รมว.ศธ. เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทว่า ขอแสดงความยินดีกับน้อง ๆ เยาวชนที่น่ารักทุกคน รู้สึกปลาบปลื้มใจที่เยาวชนทุกคนมีความรู้ ความสามารถ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และนำชื่อเสียงอันน่าภาคภูมิใจมาสู่ประเทศชาติ ขอชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมดำเนินการและให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต

รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนากำลังคนและให้ความสำคัญยิ่งแก่เด็กและเยาวชนของชาติ และสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการยกระดับและพัฒนาคุณภาพการศึกษา พัฒนาคุณภาพชีวิต รวมทั้งการปลูกฝังการเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความภูมิใจในชาติ ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

สิ่งสำคัญคือเด็กและเยาวชนทุกคนต้องมีความกตัญญูต่อบิดา มารดา ผู้มีพระคุณและประเทศชาติ มีความรู้จักสามัคคี รักชาติ มีความประพฤติดี พัฒนาตนในกรอบระเบียบวินัยที่ดีและประพฤติตนให้อยู่ในกรอบกฎหมาย รวมทั้งเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถควบคู่คุณธรรม ตลอดจนตระหนักถึงความร่วมมือเพื่อช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติ สอดรับกับคำขวัญวันเด็กในปีนี้ที่ได้มอบไว้ให้ว่า ”มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย“

โอกาสนี้ขอแสดงความยินดีและชื่นชมเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ทั้ง 1,220 คน ที่ได้รับรางวัลอันน่าภาคภูมิใจในวันนี้ ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่ตนเองมีความขยันหมั่นเพียร ใฝ่หาความรู้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนพยายามฝึกฝนให้มีทักษะด้านต่าง ๆ จนเกิดความสำเร็จ สร้างคุณประโยชน์แก่ตนเองสังคมและประเทศชาติ ขอเป็นกำลังใจและขอให้ทุกคนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งการศึกษา และทำในสิ่งที่ตนเองได้ตั้งเป้าหมายไว้ รางวัลในวันนี้ถือเป็นเกียรติประวัติที่สง่างามแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล รวมทั้งยังเป็นต้นแบบที่สร้างสรรค์แรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชนรุ่นต่อไป

จากนั้นเวลา 11.00 น. รมว.ศธ. เป็นประธานมอบโล่รางวัล แก่เด็กและเยาวชนดีเด่น  พร้อมด้วยเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ จำนวน 1,220 คน โดยกล่าวให้ข้อคิดแก่เด็กและเยาวชนตอนหนึ่งว่า วันนี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มอบโล่รางวัลให้แก่เด็กและเยาวชนดีเด่น ที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ซึ่งเห็นได้ว่าเด็กยุคใหม่มีความกล้าทำในสิ่งที่ดีและถูกต้อง อยากจะฝากถึงน้อง ๆ ทุกคน ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ให้เก็บความดีความภาคภูมิใจที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ให้เป็นพลังกายพลังใจ ตั้งใจเรียนให้เก่งและเป็นคนที่มีความก้าวหน้าในสังคมที่มีคุณภาพ

สิ่งที่ผมรู้สึกยินดีอีกอย่างหนึ่งคือขณะที่มอบโล่มีเด็กหลายคนแอบมากระซิบว่า “โตขึ้นอยากเป็นคุณครู” ได้ฟังแล้วก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่การศึกษาของเราเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกอาชีพในอนาคต หากเด็กคนไหนอยากเป็นครูสอนเด็กรุ่นต่อไปให้เป็นคนมีคุณภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษา ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจ เพราะเชื่อว่าเด็กทุกวันนี้มีความเก่งอยู่ในตัว และในอนาคตหวังว่าจะมีเด็กในสายอาชีพครูที่เก่ง สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกศิษย์ได้

ทั้งนี้ นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการคือ “เรียนดี มีความสุข” ที่เน้นย้ำให้เด็กและเยาวชนมีความสุขกับการเรียนให้มากที่สุด วันนี้เราเป็นนักเรียนมีหน้าที่เรียนหนังสือ เป็นคนดี เชื่อฟังบิดามารดา ครูบาอาจารย์ แบ่งเวลาให้เป็น ใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์ พัฒนาทักษะในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น เรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน เพราะโลกของการเรียนรู้สามารถต่อยอดได้ไม่สิ้นสุด

สุดท้ายนี้อยากฝากถึงเด็กและเยาวชนทุกคน เมื่อได้รับรางวัลแล้วให้เก็บเป็นความภาคภูมิใจ เพราะความดีจะส่งผลให้เราประสบความสำเร็จในทุกด้าน นำทุกเรื่องราวความสมหวังความผิดหวังเป็นพลังใจในการดำเนินชีวิต หมั่นศึกษาเล่าเรียน ทำงานเพื่อสังคมบ้านเมือง เติบโตไปในหลากหลายสาขาอาชีพ เพื่อเป็นผู้ที่ดูแลการพัฒนาประเทศต่อไป

ทั้งนี้ มีเด็กและเยาวชนดีเด่นที่ผ่านการคัดเลือกจากส่วนราชการ/หน่วยงาน 17 หน่วยงาน โดยพิจารณาคัดเลือกจากเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติดี เรียนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีความซื่อสัตย์ ขยัน ประหยัด มีความมานะอดทน หาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง กตัญญูช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครอง และอุทิศตนเพื่อส่วนรวม เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการ, ด้านศิลปวัฒนธรรมและดนตรี, ด้านทักษะฝีมือวิชาชีพ, ด้านกีฬาและนันทนาการ ด้านศีลธรรม คุณธรรมและจริยธรรม จำนวน 604 คน เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 279 คน และประเภททีม จำนวน 337 คน

สำหรับประชาชนและผู้สนใจเข้าร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ พบกันได้ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 ตั้งแต่เวลา 07.00 – 16.00 น. โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงานในเวลา 08.30 น. ภายใต้แนวคิด “เรียนดี มีความสุข” เพื่อให้เด็ก ๆ เกิดกระบวนการเรียนรู้ในทุกรูปแบบการเรียน มุ่งเน้นกิจกรรม Active Learning ที่สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) สามารถเข้าร่วมฟรีตลอดงาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-618-7781-4 หรือโทร. 086-341-9978

พบพร ผดุงพล / ข่าว
ณัฐพล สุกไทย / ภาพ